เมนู

พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ [1. เทวทหวรรค] รวมพระสูตรที่มีในวรรค

สัตบุรุษให้ทานอย่างสัตบุรุษ เป็นอย่างไร
คือ สัตบุรุษในโลกนี้ให้ทานโดยเคารพ ให้ทานด้วยมือของตน ให้ทานด้วย
ความอ่อนน้อม ให้ทานอย่างบริสุทธิ์ เป็นผู้มีทิฏฐิว่า ‘ทานที่ให้แล้วมีผล’ ดังนี้
แล้วจึงให้ทาน
สัตบุรุษให้ทานอย่างสัตบุรุษ เป็นอย่างนี้ (8)
สัตบุรุษนั้นเป็นผู้ประกอบด้วยสัทธรรมอย่างนี้ มีความภักดีต่อสัตบุรุษอย่างนี้
มีความคิดอย่างสัตบุรุษอย่างนี้ มีความรู้อย่างสัตบุรุษอย่างนี้ มีถ้อยคำอย่าง
สัตบุรุษอย่างนี้ มีการกระทำอย่างสัตบุรุษอย่างนี้ มีทิฏฐิอย่างสัตบุรุษอย่างนี้ ให้
ทานอย่างสัตบุรุษอย่างนี้แล้ว หลังจากตายแล้ว ย่อมบังเกิดในคติของสัตบุรุษ
คติของสัตบุรุษ คืออะไร
คือ ความเป็นใหญ่ในเทวดา หรือความเป็นใหญ่ในมนุษย์”
พระผู้มีพระภาคได้ตรัสภาษิตนี้แล้ว ภิกษุเหล่านั้นมีใจยินดีต่างชื่นชมพระ
ภาษิตของพระผู้มีพระภาค ดังนี้แล

จูฬปุณณมสูตรที่ 10 จบ
เทวทหวรรคที่ 1 จบ

รวมพระสูตรที่มีในวรรคนี้ คือ

1. เทวทหสูตร 2. ปัญจัตตยสูตร
3. กินติสูตร 4. สามคามสูตร
5. สุนักขัตตสูตร 6. อาเนญชสัปปายสูตร
7. คณกโมคคัลลานสูตร 8. โคปกโมคคัลลานสูตร
9. มหาปุณณมสูตร 10. จูฬปุณณมสูตร


พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ [2. อนุปทวรรค] 1. อนุปทสูตร

2. อนุปทวรรค
หมวดว่าด้วยธรรมตามลำดับบท
1. อนุปทสูตร
ว่าด้วยธรรมตามลำดับบท

[93] ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของ
อนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตกรุงสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคได้รับสั่งเรียก
ภิกษุทั้งหลายมาตรัสว่า “ภิกษุทั้งหลาย” ภิกษุเหล่านั้นทูลรับสนองพระดำรัสแล้ว
พระผู้มีพระภาคจึงได้ตรัสเรื่องนี้ว่า
“ภิกษุทั้งหลาย สารีบุตรเป็นบัณฑิต1 มีปัญญามาก2 มีปัญญากว้างขวาง3 มี
ปัญญาร่าเริง4 มีปัญญารวดเร็ว5 มีปัญญาเฉียบแหลม6 มีปัญญาเพิกถอนกิเลส7